เทคนิคการสร้างเครือข่ายการจัดการเรียนรู้: สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อน

" สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อน "

บางคนว่า... เพื่อนคือคนที่เข้าใจเราที่สุด

แต่ผมว่าบางทีก็ไม่ได้เข้าใจเราซักเท่าไหร่หรอก

บางคนว่า... เพื่อนคือคนที่เติบโตร่วมกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย

แต่ผมว่าบางทีเพื่อนบางคนก็ต้องชะตากันทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน

บางคนว่า... เพื่อนคือกลุ่มคนสนิทที่แวดล้อม

แต่ผมว่าสำหรับเพื่อนบางคนถึงเราไม่ได้แวดล้อม แต่ยังสนิทกันได้

และอีกหลายๆนิยามของคำว่าเพื่อน

อันที่จริงผมไม่ได้มีนิยามของคำว่าเพื่อนอยู่ในสารบบเพราะเมื่อตัวเองถูกจริตกับใครก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ และถ้าหากเข้าใจกันมากขึ้น เราก็จะสนิทกันมากขึ้น

เมื่อไม่นานมานี้มีคนถามนิยามของคำว่าเพื่อนกับผม แรกทีเดียวตั้งใจว่าจะคิดให้เก๋ไก๋เสียหน่อย สุดท้ายคิดเท่าไหร่ก็ไม่เก๋ แต่ไม่ว่าเราจะนิยามคำว่าเพื่อนอย่างไร ก็ไม่มีอะไรดีกว่าการมีเพื่อนที่เรารู้สึกว่าเขาคือเพื่อน ทั้งเพื่อนวงนอก เพื่อนวงใน เพื่อนวัยเด็ก เพื่อนสนิท ฯลฯ

การมีเพื่อนที่เราสามารถสัมผัสได้ถึงใจกัน

แม้แค่บางส่วนก็นับว่าเป็นเรื่องดี

' นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ย่อมบินขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้ '

ผมเคยได้อ่านข้อความนี้ครั้งแรกที่ป้ายใต้ต้นมะม่วงในวัดแถวบ้าน สมัยเด็กที่ยังไม่ประสีประสา ผมก็ไม่ใคร่จะรู้ความหมายของมันนัก ขนนกเกี่ยวอะไรกับเพื่อนและการบินขึ้นสู่ที่สูง เพื่อนในวัยเด็ก ของผมไม่เห็นมีใครอยากบิน เราแค่ได้เล่นเป็นตำรวจจับผู้ร้ายก็สนุกมากๆแล้ว (ย้ำว่าตอนนั้นชอบเล่นผู้ร้าย เพราะชอบถูกวิ่งไล่จับ)

ความหมายของข้อความที่ว่าเริ่มกระจ่างชัดก็ตอนที่ผมได้เห็นว่าเพื่อนเป็นคนแปลกหน้าที่มีความสำคัญมากกว่าการร่วมกันเล่นสนุก เพื่อนทำอะไรบางอย่างให้โดยไม่ต้องร้องขอ เพื่อนปลุกไปเรียนให้ทันยามเช้า เพื่อนช่วยติว เพื่อนให้ยืมสตางค์กินข้าว เพื่อนพาไปหาหมอ และเพื่อนก็กอดคอตอนอกหัก

การบินขึ้นสู่ที่สูงคงไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การป่ายปีนขึ้นไปใช้ชีวิตสูงส่งอยู่บนยอดเสา แต่หมายถึงการขับเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างไรให้ Smooth as Silk